ระวัง! คนนอนกรนดังเสี่ยงเป็นโรคอัลไซเมอร์
เหตุสมองขาดออกซิเจน จนหัวใจและปอดทำงานประสานกันไม่เต็มที่
การกรนหนักเพิ่มความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ เช่นเดียวกับคนที่เป็นโรคหลอดเลือดสมอง หัวใจวาย หรือบาดเจ็บที่ศีรษะ เนื่องจากสมองขาดออกซิเจนไปหล่อเลี้ยง
ศาสตราจารย์คริส เพียร์ส จากคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยลีดส์ ซึ่งเป็นผู้นำการวิจัย ตั้งเป้าศึกษาว่า เกิดอะไรขึ้นเมื่อระดับออกซิเจนที่หล่อเลี้ยงสมองลดลงด้วยสาเหตุต่างๆ ตั้งแต่อาการระยะยาว เช่น โรคถุงลมโป่งพอง แน่นหน้าอก ไปจนถึงอาการที่เกิดขึ้นกะทันหัน เช่น หัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง หรือแม้แต่การบาดเจ็บที่ศีรษะ
เพียร์สพบว่า คนที่กรนดังอาจมีปัญหาเช่นเดียวกัน เพราะบางช่วงเวลาขณะหลับ สมองอาจได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ ทำให้หัวใจและปอดทำงานประสานกันไม่ได้เต็มที่
นักวิจัยจากลีดส์ศึกษาความเสียหายจากภาวะที่สมองได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอจากเซลล์สมองส่วน astrocytes ที่ทำหน้าที่ควบคุมการซึมผ่านเข้าออกของสารเคมีต่างๆ จากเส้นเลือดสู่เนื้อเยื่อประสาท
นักวิจัยพบว่า หากแอสโตรไซต์ได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ จะไม่สามารถดูดซึมสารตกค้าง ทำให้สารเหล่านั้นสะสมและกลายเป็นพิษ และสารพิษเหล่านี้เองที่เป็นต้นเหตุของโรคอัลไซเมอร์
แม้ถือเป็นข่าวร้ายสำหรับผู้ที่กรนหนัก แต่อัลไซเมอร์ส โซไซตี้แสดงความยินดีกับการค้นพบนี้ เพราะช่วยไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการทำงานของสมอง และช่วยอธิบายว่าเหตุใดบางคนจึงเป็นโรคอัลไซเมอร์ แต่บางคนไม่เป็น
ศาสตราจารย์ซูซาน ซอเรนเซน หัวหน้าฝ่ายวิจัยของอัลไซเมอร์ส โซไซตี้ กล่าวว่านักวิจัยของลีดส์ศึกษาบทบาทของเซลล์ที่สนับสนุนเซลล์ประสาทในสมอง แต่สิ่งที่น่าตื่นเต้นคือ แทนที่จะมุ่งเน้นเซลล์ประสาทดังกล่าว ทีมนักวิจัยกลับให้ความสำคัญกับกระบวนการในสมอง ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีคำอธิบายโดยละเอียด
ทั้งนี้ อัลไซเมอร์เป็นโรคทางสมองที่ร้ายแรงและไม่สามารถรักษาได้ ใช้เวลาก่อตัวถึง 30 ปี และหลังอายุ 65 ปี ความเสี่ยงในการเป็นโรคนี้จะเพิ่มขึ้น 2 เท่าทุก 5 ปี
ที่มา
ข้อมูลจาก : ผู้จัดการรายวัน
ภาพประกอบ : www.thaihealth.or.th