Set as your home page  |  Bookmark                                                                                     Welcome to fristweb!   Join Now  |  Sign In  |  Build Site  |  Mail  |  Training

ไทย 简体中文 繁體中文 English 日本語 한국어 Tiếng Việt Deutsch Français Italiano Español Русско Portuguese
ที่บ้าน บริษัท ผลิตภัณฑ์ ข่าวสาร งาน และ อาชีพ คนหางาน คนขายของ ซื้อของ ตัวแทน ดำเนินการ การประสานงาน การฝึก

เบนซ์ "New E-Class" "ตา" คู่ใหม่ - เร้าใจกว่าเดิม

เวลา: 2007-06-14 มูลฐาน: www.kapook.com

เบนซ์ "New E-Class" "ตา" คู่ใหม่ - เร้าใจกว่าเดิม


คอลัมน์ ทดสอบ
สันติ จิรพรพนิต

          ห่างหายจากยนตรกรรมสุดหรูค่ายดาวสามแฉก "เมอร์เซเดสเบนซ์" อยู่นานสองนาน จนโน่นเมื่องานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา แวะเข้าไปทักทายที่บูธสุดอลังการของเบนซ์ เจอกับระดับบิ๊กๆ เพียบ หนึ่งในนั้นคือ "พี่ป้อม"เยาวเรศ เลิศลือชาชัย ผจก.อาวุโส ฝ่ายสื่อสารองค์กร ก็มีการทาบทามกันเอาไว้ว่าจะนำรถหลายๆ รุ่นมาให้ทดสอบ เพราะระยะหลังไม่ค่อยได้เจอะเจอกันเลย 

          จนอีกสักพักให้หลัง พี่ป้อม ก็กริ๊งกร๊างมาหาว่าจัดรถให้ติดๆ กัน 2 รุ่นซ้อน คือ "A-180 CDI" และ "New E-Class" ตัวใหม่ล่าสุด "A-180 CDI" ให้นักข่าว "ยานยนต์ ข่าวสด" นำไปจัดการซะ เพราะผมติดคิวรุ่นอื่นพอดี แต่ตัว "New E-Class" เข้าล็อกจังหวะว่าง จึงไม่พลาดที่จะลองเสียหน่อย

          ที่ได้มาเป็นรุ่น "E200 Kompressor Elegance" ท็อปสุดของเครื่อง 1.8 ลิตร

          "E-Class" ถือว่าเป็นรถรุ่นดังที่ขายดีที่สุดของค่ายนี้ โฉมที่แล้วฟาดยอดขายไปกว่าล้านคันทั่วโลก หรือหากนับตั้งแต่เจเนอเรชั่นแรกที่ปล่อยออกสู่ตลาดเมื่อ 60 ปีก่อน ปาเข้าไปกว่า 10 ล้านคัน!!!"New E-Class" ลักษณะภายนอกใกล้เคียงกับรุ่นเดิม ที่เปลี่ยนไปเห็นๆ ก็คือ "ดวงตา" คู่ใหม่เป็นแบบ 4 ดวง ใหญ่ 2 เล็ก 2 แยกจากกันไฟใหญ่ใส่ลูกเล่นคล้านบานเกล็ดโปร่งแสงไว้ส่วนบนสุด เพิ่มประสิทธิภาพส่องสว่างมากขึ้นหลอดเป็นแบบไบซีนอน ปรับองศาตามการเลี้ยว ช่วยได้มากเวลาขับขี่ในทางมืดๆ เพราะจะสามารถมองเห็นข้างทางได้ชัดเจนขึ้น พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 ติดในฝากระโปรง 

          กระจังหน้าออกแบบรูปตัว "วี" รับกันดีกับสัญลักษณ์ดาว 3 แฉกแบบลอยตัว รอบคันติดกันกระแทกพร้อมคิ้วโครเมียม และชุดแต่งรอบคัน กันชนท้ายสไตล์ Avangarde พร้อมไฟท้ายแบบใหม่ใหญ่ขึ้น ภายในสีเทาทูโทนตัดกับลายไม้เงาวับดูหรูหราขึ้นไปอีก พวงมาลัยแบบ 4 ก้านระบบมัลติฟังก์ชัน ที่ออกแบบปุ่มกดรูปวงรี การปรับขึ้นลงเดินหน้าถอยหลังด้วยระบบไฟฟ้าที่ใต้คอพวงมาลัย

          เบาะนั่งเป็นหนังแท้ทำให้มีขนาดใหญ่เต็มพื้นที่เพื่อความสบายมากขึ้น เรียกว่าปิดประตูแล้วไม่สามารถสอดมือเข้าไปด้านข้างระหว่างเบาะกับประตูได้ ทำให้ต้องย้ายปุ่มปรับเบาะไฟฟ้ามาวางตรงแผงข้างประตู ซึ่งสามารถบงการตามใจชอบตั้งแต่เบาะนั่ง พนักผิง และหมอนรองศีรษะ พร้อมระบบความจำถึง 3 ชุด เช่นเดียวกับปุ่มปรับ-พับกระจกมองข้างก็ย้ายมาอยู่ที่แผงข้างประตูเช่นกัน

          เรือนไมล์ออกแบบใหม่เป็นแบบ 3 วงกลม ตรงกลางเป็นมตรวัดความเร็ว ด้านขวาก็วัดรอบ ส่วนด้านซ้ายเป็นนาฬิกาแบบเข็ม!?? โดยวงกลมด้านในของมาตรวัดความเร็ว แสดงฟังก์ชันต่างๆ เช่นอัตราสิ้นเปลือง อุณหภูมิ ความเร็วเฉลี่ย ฯลฯ

          เขยิบมาตรงกลางเป็นช่องแอร์ขนาดใหญ่ สามารถปรับแบบออโต้ หรือแยกซ้าย-ขวาได้ พร้อมวิทยุซีดีเสียงสุดแจ่ม คอนโซลกลางทำไว้สูงพอดีๆ ให้เท้าแขนกันเมื่อยได้สบายอารมณ์ดีเหลือเกิน เพิ่มลูกเล่นให้ช่องเก็บของแบบ 2 ชั้น 

          ในส่วนของเบาะหลังนั่งสบายดีมากๆ เลครูมออกแบบไว้พอดีๆ ไม่มาก ไม่น้อยเกินไป แต่เหมือนกับจะเน้นให้ผู้ซื้อขับเองมากกว่าจะมีคนขับ


          เรื่องความปลอดภัยหายห่วงมีทุกอย่างเท่าที่จะนึกได้ และยิ่งเด็ดมากขึ้นกับระบบ "Pre-Safe" ซึ่งสมองกลอัจฉริยะจะกระชับเข็มขัดนิรภัยให้มั่นคงขึ้น หากรถมีอาการเสียหลัก เสียใจด้วย ผมไม่รู้ว่าเจ้า "Pre-Safe" เป็นอย่างไร เพราะไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับระบบนี้!?? ระบบ "Pre-Safe" เป็นหนึ่งในอุปกรณ์มาตรฐาน ที่ยกมาจาก "S-Class

          นอกจากนี้ ยังมีระบบเบรกแบบแปรผัน และระบบบังคับเลี้ยวพิเศษ ให้ความแม่นยำและปลอดภัยมากขึ้น ที่ขอยืมมาจากรุ่นพี่เช่นกัน เรียกว่าเดมเลอร์ฯ ทุ่มทุนสร้างจริงๆ ที่นำระบบที่เคยวางไว้ใน "S-Class" มาอัดใส่เข้าไปใน "New E-Class"

          การทดสอบหนนี้ผมใช้เส้นทางไปเขาใหญ่ ออกจากกรุงเทพฯ ขึ้นทางด่วนไปทะลุบางปะอิน ช่วงอยู่บนทางด่วนจะออกบางปะอินนี่เอง ผมต้องตะลึงตึง...ตึง กับความแรงชนิดเหลือเชื่อของเครื่องยนต์ความจุเพียง 1.8 ลิตร 200 ก.ม./ชั่วโมง คือเข็มที่วาดขึ้นไปช่วงที่ผมกดคันเร่งอยู่เพียงลำพัง โดยแทบจะไม่มีเพื่อนร่วมถนนเลย

          เห็นความเร็วขึ้นไปขนาดนี้ไม่ได้มีอาการหวาดเสียวเลย เพราะมันเป็นไปโดยไม่รู้ตัว จนผมตวัดสายตามองไปที่เข็มไมล์นั่นดอก ถึงรู้สึกว่าเร็วเกินไปแล้วไอ้น้อง สมองสั่งการให้ถอนน้ำหนักเท้าแบบอัตโนมัติ ทั้งๆ ที่รู้สึกว่ามันน่าจะไปได้มากกว่านั้น

          เห็นจะจริงที่เขาบอกว่าม้าของยุโรปตัวโตกว่าม้าของเอเชีย ยิ่งกับเครื่องของ "New E-Class" จากข้อมูลพบว่าพัฒนาขึ้นไปอีกให้แรงม้าเพิ่มขึ้นถึง 12.5% แต่ความประหยัดของเครื่อง 1.8 ลิตรยังมีเหมือนเดิม ตลอดเส้นทางวิ่งต่างจังหวัดและในเมือง จากตัวเลขที่บอกเอาไว้ของแผงหน้าปัด อัตราสิ้นเปลืองตามสเป๊กอยู่ที่ อยู่ระหว่าง 6.5-12.6 ลิตร/100 ก.ม. แต่ที่ผมทำได้ไม่ถึกขนาดนั้น อยู่ระหว่าง 8-12 ลิตร/100 ก.ม. เพราะขย้ำเอาๆ อย่างเมามันนั่นเอง

          ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าช่วงล่างของ "New E-Class" นิ่มนวลกว่ารุ่นเก่า ส่วนการเก็บเสียงและการทรงตัวในความเร็วสูง หรือการเข้าโค้งหนักๆ ทำได้ดีเหมือนเดิม เกียร์ออโต 5 สปีด แม่นยำและนุ่มนวลเวลาปรับเกียร์ขึ้นและลง โดยสามารถเล่นเป็นเกียร์ธรรมดาก็ได้ เพียงโยกคันเกียร์ไปซ้าย-ขวา เบาๆ ด้วยปลายนิ้วเท่านั้น อุปกรณ์ต่างๆ ออกแบบได้หรูหรา และใกล้มือไม้สะดวกต่อการใช้อย่างยิ่ง

          จากการทดสอบอยู่หลายวัน ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหลังจาก "New E-Class" เปิดตัว จึงกวาดยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำ "New E-Class" มีให้เลือกตั้งแต่เครื่องยนต์ 1.8-3.0 ลิตร เครื่องยนต์ก็หลากหลายทั้งเบนซิน, เบนซินผสม NGT และเครื่องดีเซล ลองไปดูด้วยตา สัมผัสด้วยความรู้สึกกับรถคันจริง แล้วจะซึ้งว่าทำไมนักธุรกิจทั่วโลกถึงหลงใหล ยนตรกรรมนาม "E-Class"


ข้อมูลทางเทคนิค

(E200 Kompressor Elegance)
แบบตัวถัง เก๋ง 4 ประตู
เครื่องยนต์ DOHC4สูบ 16 วาล์ว
ความจุ 1796 ซีซี
กำลังสูงสุด 184 แรงม้า/5,500 รอบฯ
แรงบิดสูงสุด 250นิวตันเมตร/3,500-4,000รอบฯ
มิติ(กว้างxยาวxสูง) 1,822x4,856x1,483 ม.ม.
ราคา 3,950,000 บาท



ข้อมูลและภาพประกอบจาก

 

 

 

 

 

 

Copyright © 2000 - 2009 บริษัท เนทเวอร์คกิ้ง เทคโนโลยี (ไทยแลนด์) จำกัด All Rights Reserved.