แม้กูเกิลจะประกาศว่าให้ความสำคัญกับนโยบายปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้เต็มที่ แต่รายงานการวิจัยของกลุ่มรักษาสิทธิส่วนบุคคลนานาชาติ Privacy International ระบุว่ากูเกิลเป็นบริษัทที่ดำเนินมาตรการรักษาสิทธิส่วนบุคคลของผู้ใช้ได้แย่กว่าบริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายอื่นๆ คว้าอันดับรั้งท้ายตารางมาครอง
      
       กลุ่มรักษาสิทธิส่วนบุคคลนานาชาติหรือ Privacy International ทำการสำรวจบริการบนอินเทอร์เน็ตจาก 23 บริษัทในเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา หลังการสำรวจ ทางกลุ่มจัดอันดับกูเกิลให้อยู่ในลำดับท้ายสุดของตาราง โดยเป็นบริษัทเดียวที่ได้รับตำแหน่ง "ผู้ใช้ต้องให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ" และ "เป็นปรปักษ์ต่อการรักษาสิทธิส่วนบุคคลมากที่สุด"
      
       บริษัทคู่แข่งอื่นๆของกูเกิลถูกจัดลำดับในตำแหน่งที่ดีกว่ากูเกิลเล็กน้อย โดยไมโครซอฟท์ (Microsoft) นั้นถูกจัดอันดับว่ามีการละเลยการรักษาสิทธิส่วนบุคคลไว้ที่ 4 คะแนนจากคะแนนเต็ม 6 คะแนน ขณะที่ยาฮู (Yahoo) ถูกจัดว่ามีการละเลยมากกว่าด้วยคะแนน 5 คะแนน ต่างจากที่กูเกิลได้คะแนนเต็ม 6 ซึ่งหมายความว่า กูเกิลคือภัยด้านการรักษาสิทธิส่วนบุคคลอย่างสมบูรณแบบ
      
       "เราทราบว่าการจัดให้กูเกิลอยู่ในลำดัยท้ายสุดของตารางจะต้องถูกโต้เถียง แต่จากการวิจัยของเรา ขอยืนยันว่าเราพบข้อบกพร่องของการไม่รักษาสิทธิส่วนบุคคลของผู้ใช้ในการดำเนินงานของกูเกิลมากมาย ทั้งๆที่การรักษาสิทธิ์เป็นไปได้ดีบนองค์กรอินเทอร์เน็ตรายอื่น" ตัวแทนกลุ่มรักษาสิทธิส่วนบุคคลนานาชาติกล่าว
      
       จุดที่ทางกลุ่มกล่าวหากูเกิลหนักที่สุด คือการประเมินว่ากูเกิลไม่มีมาตรการรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้ใช้มากมายที่เรียกเก็บจากผู้บริโภค โดยระบุว่ารายงานฉบับละเอียดจะนำออกมาเผยแพร่ต่อสาธารณชนในเดือนกันยายนนี้
      
       ยังไม่มีรายงานความเห็นจากผู้บริหารของกูเกิลในขณะนี้
      
       โอกาสนี้ ไซมอน เดวีส์ (Simon Davies) ประธานกลุ่มรักษาสิทธิส่วนบุคคลนานาชาติให้สัมภาษณ์ว่าได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงอิริค ชมิดท์ (Eric Schmidt) ซีอีโอของกูเกิล เพื่อชี้แจงความเที่ยงตรงของผลการสำรวจที่ได้
      
       "นักข่าวชาวยุโรป 2 คนให้ข้อมูลกับเราว่า ได้รับการติดต่อจากประชาสัมพันธ์กูเกิลว่าทางกลุ่มฝักใฝ่ไมโครซอฟท์ เชื่อว่าข้อกล่าวหานี้เกิดจากความที่คะแนนของไมโครซอฟท์ที่เราจัดอันดับให้นั้นดีกว่าคะแนนที่กูเกิลได้ทุกส่วน" ส่วนหนึ่งของเนื้อความในจดหมายที่เดวีส์เขียน ซึ่งเขาต้องการให้ยักษ์ใหญ่อินเทอร์เน็ตยอมรับความจริง และกล่าวขอโทษที่กล่าวหากลุ่มโดยไม่สมควร
      
       สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ดูเหมือนว่ากลุ่มรักษาสิทธิส่วนบุคคลนานาชาติฝักใฝ่ไมโครซอฟท์คือ หนึ่งในกรรมการที่ปรึกษากลุ่ม 70 คนนั้นเป็นพนักงานปัจจุบันของไมโครซอฟท์ จุดนี้เดวีส์ปฏิเสธชัดเจน โดยยกตัวอย่างว่าที่ผ่านมาทางกล่มเคยดำเนินมาตรการขั้นเด็ดขาดกับไมโครซอฟท์ถึง 5 ครั้ง รวมถึงการให้ความร่วมมือกับคณะกรรมาธิการยุโรปในการสอบสวนซักฟอกไมโครซอฟท์เรื่องคดีผูกขาดตลาดในยุโรปด้วย
      
       นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กลุ่มรักษาสิทธิส่วนบุคคลนานาชาติแสดงความกังวลเกี่ยวกับมาตรการรักษาสิทธิของกูเกิล โดยในปี 2004 ทางกลุ่มเคยออกมาโจมตีบริการจีเมล (Gmail) ว่าจะเป็นช่องทางที่ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลในอีเมลของผู้บริโภครั่วไหลไปสู่บุคคลที่สาม เนื่องจากบริการจีเมลจะทำการสแกนเนื้อหาในอีเมลคร่าวๆ เพื่อให้ระบบเลือกแสดงโฆษณาที่สอดคล้องกับเนื้อหาอีเมลฉบับนั้นๆ โดยร้องเรียนกับคณะกรรมการกำกับดูแลด้านสิทธิส่วนบุคคลในประเทศสหภาพยุโรปทั้งฝรั่งเศส เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ กรีซ อิตาลี สเปน ฯลฯ ครั้งนั้นทำให้กูเกิลต้องออกมายืนยันว่าจะลบข้อมูลอีเมลที่สแกนไว้ในระบบให้เร็วที่สุด และจะป้องกันสิทธิส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการให้มากขึ้น
      

       Company Related Links :
       PI