โรงเรียนสามชัยวิเทศศึกษา
แนะนำโรงเรียน
 
   

 

 ดร.แสงชัย  โสตถีวรกุล
นายกสมาคมส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาจังหวัดสมุทรสาคร

ผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนสามชัยวิเทศศึกษา
 
 

การศึกษา  คือ  ยุทธศาสตร์พัฒนาชาติ

 

         ดอกเตอร์ทางจิตวิทยาการบริหารและนักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมกระดาษ สนใจงานพัฒนาการศึกษาและทุ่มเทชีวิตบั้นปลายให้กับการศึกษาของชาติ โดยเป็นผู้ริเริ่มและเป็นประธานโครงการจัดสร้างโรงเรียนสามชัยวิเทศศึกษา สอนภาษาจีนให้ลูกหลานชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดใกล้เคียง ด้วยความร่วมมือร่วมใจของนักธุรกิจชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดสมุทรสาคร โดยมี ดร.แสงชัย  โสตถีวรกุล นายกสมาคมส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาจังหวัดสมุทรสาครเป็นแกนนำ ได้ฝ่าฟันอุปสรรคตั้งแต่หาที่ดินในการก่อสร้าง การจัดหาเงินทุนดำเนินงานและการก่อสร้างอาคารเรียน จนสามารถเปิดรับนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล จนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พร้อมประกาศวิสัยทัศน์  “การศึกษา คือ ยุทธศาสตร์พัฒนาชาติ”


 ชาวไทยเชื้อสายจีนที่ได้สร้างครอบครัว และธุรกิจจนมีฐานะมั่นคงดีแล้วต่างได้รวมตัวกันเป็นสมาคมชาวไทยเชื้อสายจีน ได้แก่ สมาคมตระกูลแซ่ มูลนิธิ และองค์กรการกุศลต่าง ๆ เพื่อร่วมกันสร้างกิจกรรมสาธารณประโยชน์แก่สังคม ตอบแทนบุญคุณของแผ่นดินไทยที่นำความร่มเย็นเป็นสุขมาสู่ครอบครัวชาวไทยเชื้อสายจีนจนทุกวันนี้
 กิจกรรมด้านสังคมที่สำคัญของสมาคมชาวไทยเชื้อสายจีน กิจกรรมหนึ่งคือการพัฒนาการศึกษา โดยเฉพาะการก่อตั้งโรงเรียนสอนภาษาจีนและภาษาไทยให้แก่บุตรหลานชาวไทยเชื้อสายจีนในประเทศไทย ทำให้เกิดโรงเรียนสอนภาษาจีนที่มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับในด้านคุณภาพการเรียนการสอนทั่วประเทศ นับได้ว่าการพัฒนาการศึกษาเป็นกิจกรรมที่มีผลงานโดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์ประจำชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีนทั่วทุกจังหวัดของประเทศไทย รวมทั้งได้รับการส่งเสริมให้มีการพัฒนาให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น สอดคล้องกับกระแสความตื่นตัวด้านการเรียนภาษาจีนที่ได้รับการยอมรับให้เป็นภาษาหลักในการสื่อสารด้านธุรกิจการค้า ในฐานะที่เป็นภาษาสากลอีกภาษาหนึ่งของโลก


        โครงการจัดสร้างโรงเรียนสามชัยวิเทศศึกษา เป็นตัวอย่างโครงการพัฒนาการศึกษาที่ประสบความสำเร็จอย่างน่าชมเชยของชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีน จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อจัดสร้างโรงเรียนสอนภาษาจีนและกลุ่มผู้ใหญ่ที่ต้องการเรียนเสริมภาษาจีนในภาคค่ำ ตั้งอยู่บนเนื้อที่  18  ไร่  ในเขตตำบลบางหญ้าแพรก  อำเภอเมือง  จังหวัดสมุทรสาคร  ใช้งบประมาณก่อสร้างประมาณ  110  ล้านบาท  โดยได้จัดตั้งสมาคมส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาสมุทรสาคร เพื่อนำเงินบริจาคมาบริหารและพัฒนาโรงเรียนให้เจริญก้าวหน้าต่อไป
 ความสำเร็จของโครงการจัดสร้างโรงเรียนสามชัยวิเทศศึกษา เกิดขึ้นจากความเสียสละและอุตสาหะวิริยะของคณะกรรมการโครงการและผู้สนับสนุนโครงการซึ่งประกอบด้วยนักธุรกิจชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดสมุทรสาคร โดยมี  ดร.แสงชัย  โสตถีวรกุล  เป็นนายกสมาคม ซึ่งท่านได้ทุ่มเทแรงกายและแรงใจเพื่อบุกเบิกฝ่าฟันปัญหาอุปสรรคตั้งแต่การจัดหาที่ดินในการก่อสร้าง การจัดหาเงินทุนในการดำเนินงานและการก่อสร้างอาคารเรียน จนสามารถเปิดรับนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่  6  และเปิดเรียนในปีการศึกษา  2547
 ดร.แสงชัย  โสตถีวรกุล  ประธานกรรมการบริหาร  บริษัท เอสแอนด์ดี อินดัสทรี้ จำกัด และ บริษัทมหาชัย คราฟท์เปเปอร์ จำกัด เป็นนักธุรกิจชาวไทยเชื้อสายจีนผู้ประสบความสำเร็จเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการอุตสาหกรรมกระดาษ ท่านมีตำแหน่งทางสังคมเป็นสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้พิพากษาสมทบศาลแรงงานกลาง นายกสมาคมไทยค้ากระดาษและสมุด และประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร รวมทั้งเป็นกรรมการบริหารหอการค้าไทย-จีน และอีกหลายสมาคม ท่านมีแนวคิดด้านสังคมที่ได้ให้ความสำคัญด้านการพัฒนาการศึกษามาตลอด โดยท่านได้กล่าวย้ำว่า   “การศึกษาเป็นสมบัติที่ล้ำค่ายิ่งกว่าทรัพย์สินเงินทอง”
 ชีวประวัติของ ดร.แสงชัย  โสตถีวรกุล  ทั้งความสำเร็จในด้านธุรกิจและความสำเร็จในการจัดสร้างโรงเรียนสามชัยวิเทศศึกษา เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาและร่วมกันพัฒนาการศึกษาภาษาจีนให้แก่ลูกหลาน ชาวไทยเชื้อสายจีนในอนาคตสืบต่อไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้มีจิตศรัทธาของบรรดาเหล่ารักการเรียนการสอน และผู้มีเมตตาจิต คงจะไม่ประสบความสำเร็จ


 

 เปิดแนวคิดพัฒนาการศึกษาของชาติ

         จากความสำเร็จด้านธุรกิจและได้อุทิศตัวช่วยเหลือสังคมเสมอมา ดร.แสงชัย  โสตถีวรกุล ให้ทัศนะด้านความ สำคัญของการศึกษาซึ่งเป็นพื้นฐานความสำเร็จในชีวิตว่าควรเป็นการศึกษาที่ “ทุกคนเกิดมามีหน้าที่ต้องเรียนรู้” เมื่อเรียนรู้แล้วจะต้องสามารถถ่ายทอดความรู้นั้นให้แก่ผู้อื่นได้ มิเช่นนั้นความรู้ที่ได้มาก็ไม่มีประโยชน์เปรียบเสมือนมีเงินอยู่ 100 บาท เมื่อไม่สามารถสร้างดอกผลได้ จะทำให้เงินนั้นไร้ค่าและมีราคาคงเดิม 100  บาท สำหรับการถ่ายทอดความรู้นั้น ไม่จำเป็นต้องรอสะสมประสบการณ์เสียก่อน แต่สามารถทำได้ทุกครั้งที่มีโอกาส มีความคิดที่ดีและจำเป็นต้องพูดให้ดีด้วย และให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม  ดร.แสงชัย  โสตถีวรกุล  ฝากทัศนะเกี่ยวกับการศึกษาอันมีค่าไว้ให้แก่เยาวชนว่า
 “ทรัพย์สินเงินทอง...สูญหายได้...หมดได้...เพิ่มได้  แต่วิชาที่เรียนมาเป็นสมบัติล้ำค่าอยู่กับตัวเรา ไม่มีใครขโมยไปได้ถึงจะฆ่าเราให้ตายก็เอาความรู้จากตัวเราไปไม่ได้ ดังนั้น การเรียนรู้จึงเป็นสมบัติที่ล้ำค่ายิ่งกว่าทรัพย์สินเงินทอง”

 

 ปลูกศรัทธาสร้างโรงเรียนสามชัย

         ดร.แสงชัย  ได้กล่าวถึงประวัติความเป็นมาของโครงการจัดสร้างโรงเรียนสามชัยวิเทศศึกษา  เริ่มต้นจากแนวคิดว่าจังหวัดสมุทรสาคร ยังไม่มีโรงเรียนสอนภาษาจีนที่ได้มาตรฐาน ขณะเดียวกัน จังหวัดสมุทรสาครเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีชาวไทยเชื้อสายจีนอยู่เป็นจำนวนมาก และได้มีลูกหลานสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคน แต่ปัจจุบัน บรรพบุรุษชาวจีนกำลังเป็นห่วงว่าลูกหลานชาวจีนในรุ่นหลัง ๆ นี้ จะลืมเลือนภาษาจีนกันหมด จึงมีกลุ่มบุคคลซึ่งเป็นชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดสมุทรสาคร ได้ร่วมกันเป็นคณะกรรมการ ริเริ่มดำเนินการจัดตั้งโรงเรียนสอนภาษาจีน ที่จังหวัดสมุทรสาคร  จำนวน  24  ท่าน  ซึ่งจะเปิดสอนภาษาจีนควบคู่ไปกับวิชาสามัญที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด
 เมื่อเริ่มต้นหาที่ดินสร้างโรงเรียนนั้น  ได้มีผู้มีจิตศรัทธา  คือ  คุณพงศ์เทพ   พฤกษ์วัฒนากุล  และ  คุณสุพล 
พูลสุวรรณวิทย์  ทั้ง 2 ท่านนี้เป็นคนเหยี่ยวเพ้ง ได้บริจาคที่ดินจำนวน 6 ไร่ (ที่ตำบลบางหญ้าแพรก) ให้เป็นสถานที่ก่อสร้างโรงเรียน ด้วยเห็นว่า ดร.แสงชัย เป็นผู้เสียสละและมีความจริงใจ รวมทั้งมีวัยวุฒิและคุณวุฒิที่เหมาะสม พอที่จะสามารถดำเนินโครงการนี้ให้สำเร็จได้ ต่อมาเมื่อ ดร.แสงชัย และคณะกรรมการ ได้พิจารณาเห็นว่าที่ดินผืนนี้ (ถนนพัฒนาสาคร) มีขนาดเล็กไป เพราะจะเริ่มสอนตั้งแต่อนุบาลถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย จึงได้ซื้อที่ดินบริเวณรอบ ๆ อีก 12 ไร่ รวมเป็น 18 ไร่ ในราคาพิเศษ นับได้ว่าเป็นการเริ่มต้นโครงการด้วยบุญกุศลแห่งศรัทธา ในการพัฒนาการศึกษาของชาติ จนโครงการประสบความสำเร็จในปัจจุบัน

 

เป้าหมายในชีวิตอุทิศเพื่อการศึกษา

          โรงเรียนสามชัยวิเทศศึกษา มีเนื้อที่รวมกัน 18  ไร่ 1 งาน 27 ตารางวา เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย อาคารเรียนมี 4 อาคาร คือ
 อาคารแรก เป็นอาคารอนุบาล สร้างเป็นอาคารชั้นเดียว แยกส่วนห้องเรียนและห้องนอน
 อาคารที่   2  เป็นอาคารระดับประถมศึกษา-มัธยมศึกษา สูง 4 ชั้น 36 ห้องเรียน
 อาคารที่   3 ชั้นที่  1  ทำเป็นห้องธุรการ    ชั้นที่  2  เป็นสำนักงานสมาคมและห้องผู้บริหาร  และชั้นที่  3  เป็น
ห้องประชุม
 เป้าหมายของโครงการ คือ เพื่อให้การศึกษาแก่เยาวชนและประชาชนในจังหวัดสมุทรสาคร จะได้เรียนรู้ภาษาจีนเพิ่มมากขึ้น พร้อมรองรับนักเรียนภาษาจีนชั้นประถมจากอำเภอใกล้เคียง และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งแก่ผู้ปกครองที่จะเลือกโรงเรียนให้บุตรหลาน โดยเน้นหลักสูตรให้นักเรียนมีความสามารถในการใช้ภาษาไทย-จีน-อังกฤษ ได้ดี ทั้งการพูดและการเขียน
 ดร.แสงชัย กล่าวสรุปถึงความคาดหวังในการดำเนินโครงการจัดสร้างโรงเรียนสามชัยวิเทศศึกษา ซึ่งตรงกับเป้าหมายในบั้นปลายของชีวิตของท่าน ซึ่งท่านตั้งใจที่จะอุทิศตัวเพื่อพัฒนาการศึกษาให้กับเยาวชนของชาติ
 “ โครงการนี้เกิดขึ้นได้เพราะผู้ใหญ่ไว้ใจผม ชีวิตผมไม่เคยขอเงินจากใคร ทั้งชีวิตมีแต่ให้ ทำให้ผมเกิดศรัทธาที่จะทุ่มเทสร้างโรงเรียนสามชัยวิเทศศึกษาให้ประสบความสำเร็จให้จงได้ ”

          โครงการจัดสร้างโรงเรียนสามชัยวิเทศศึกษา เกิดขึ้นจากความเสียสละและอุตสาหะวิริยะของคณะกรรมการโครงการและผู้สนับสนุนโครงการ ซึ่งประกอบด้วยนักธุรกิจชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดสมุทรสาคร โดยมี ดร.แสงชัย  โสตถีวรกุล  เป็นนายกสมาคม ซึ่งได้ฝ่าฟันอุปสรรคตั้งแต่หาที่ดินในการก่อสร้าง การจัดกาเงินทุนดำเนินงาน และการก่อสร้างอาคารเรียน จนสามารถเปิดรับนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
 ดร.แสงชัย  กล่าวถึงการดำเนินโครงการว่า “จากที่เริ่มดำเนินงานมาขณะนี้ เราได้สร้างอาคารเอนกประสงค์ขึ้น เพื่อให้เป็นอาคารเอนกประสงค์ที่ครบวงจร ใช้ทุนก่อสร้างประมาณ 20 ล้านบาท ภายในตึกแบ่งเป็นห้องต่าง ๆ ดังนี้ คือ ห้องสมุด, ห้องวิทยาศาสตร์, ห้องมินิเธียเตอร์, ห้องดนตรี, ห้องปฏิบัติการทางภาษา, ห้องโสตฯ  ส่วนชั้น 4 เป็นหอประชุมใหญ่ นอกจากนี้ยังมีสระว่ายน้ำ 2 สระ แยกเป็นเด็กเล็ก และเด็กโต

 

อุทิศตัวช่วยเหลือสังคม

          อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะคร่ำเคร่งและเหน็ดเหนื่อยในหน้าที่การงาน แต่ ดร.แสงชัย ก็ไม่เคยมองข้ามการช่วยเหลือสังคมถ้ามีโอกาส จากสถานะภาพทางสังคมในปัจจุบัน นอกจากบริหารงานทั้ง 2 บริษัทแล้ว ยังเป็นผู้พิพากษาสมทบศาลแรงงานกลาง สมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 1 ใน 99 คนของประเทศ กรรมการบริหารหอการค้าไทย-จีน สมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร และผู้ชี้ขาดพิพากษาแรงงานจังหวัดสมุทรสาคร นากยกสมาคมไทยค้ากระดาษและสมุด อุปนายกสมาคมตระกูลหวางแห่งประเทศไทย ประธานสภาองค์กรนายจ้างไทยสากล อุปนายกสมาคมวิเทศพาณิชย์ไทย-จีน และรองประธานมูลนิธิส่งเสริมศีลธรรมสงเคราะห์ ในปี 2544 และปี 2546 ได้รับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ในสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง
          ด้วยการประกอบคุณงามความดีมาตลอดชีวิต ดร.แสงชัย จึงได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ช้างเผือกชั้นที่  3  ชื่อ  ตริตาภรณ์  ในปี  2545  และอีก  2  ปีถัดมา  ก็ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์มงกุฎไทย  ชั้นที่  2  ชื่อ  ทวีติยาภรณ์  ซึ่งนับเป็นความปลาบปลื้มอย่างหาที่สุดไม่ได้ของท่านและวงศ์ตระกูล และยิ่งเป็นแรงใจที่ช่วยให้ท่านทุ่มเททำงานเพื่อสังคมยิ่ง ๆ ขึ้นไป
 ในปี  2549  เป็นปีมหามงคลวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ดร.แสงชัย  โสตถีวรกุล ในฐานะ นายกสมาคมส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาจังหวัดสมุทรสาคร ได้เป็นประธานจัดงานเฉลิม
พระเกียรติฯ ของจังหวัดสมุทรสาคร โดยได้จัดสร้าง “คฑาตราสัญลักษณ์ทองคำ” หนัก 60 บาท พร้อมกับได้จัดโครงการวิ่งเทิดพระเกียรติ อัญเชิญคฑาสัญลักษณ์จำลอง พร้อมธงไตรรงค์และธงตราสัญลักษณ์ วิ่งทั่วทุกอำเภอในเขตจังหวัดสมุทรสาคร ระหว่างวันที่ 25-27  พฤษภาคม  2549  และได้จัด พิธีจุดเทียนชัยถวายพระพร  ณ  โรงเรียนสามชัยวิเทศศึกษา  ในเวลา  19.19 น. เมื่อวันที่  27  พฤษภาคม  2549  ยังความปลาบปลื้มให้แก่ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ผู้มาร่วมงานโดยทั่วกัน


           ในปี  2554  ดร.แสงชัย  โสตถีวรกุล  ให้สโลแกนไว้ว่า  “ปี  2554  ปีแห่งการกีฬา” ซึ่งท่านได้ให้การสนับสนุนส่งเสริมด้านกีฬาประเภทต่าง ๆ ส่งนักกีฬาไปแข่งขันภายนอก โดยเฉพาะกีฬาฟุตบอลและว่ายน้ำ จนได้รับรางวัลมากมาย ได้เป็นตัวแทนระดับภาคและระดับประเทศ
 นอกจากนี้ ยังได้มีการระดมทุนจากผู้มีจิตศรัทธาก่อสร้างอาคารยิมเนเซียม ขนาด 45 x 65 เมตร ทั้งนี้ เพื่อใช้เป็นสถานที่เรียนและออกกำลังกาย เพื่อพัฒนานักเรียนให้เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ มีความสมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา รวมถึงใช้เป็นสถานที่บริการแก่ชุมชนในโอกาสต่าง ๆ ซึ่งต้องใช้งบประมาณก่อสร้างทั้งสิ้น 30 ล้านบาท ในการก่อสร้างอาคารยิมเนเซียมนี้ ได้เปิดให้ผู้ปกครอง ชุมชน ทั่วไป ได้ร่วมบริจาคด้วย โดยผู้ที่มีจิตศรัทธาร่วมบริจาค 1 หมื่นบาทขึ้นไป จะจารึกชื่อ-สกุล ลงบนหินอ่อนติดไส้หน้าอาคารยิมเนเซียม เป็นเกียรติประวัติคุณงามความดี และเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล สมควรได้รับการยกย่องเป็นแบบอย่าง แก่ลูกหลานและชนรุ่นหลังต่อไป
          ความรักในผืนแผ่นดินไทย และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นนั่นเอง ที่เปรียบเสมือนแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ให้  ดร.แสงชัย  โสตถีวรกุล  ทุ่มเทช่วยเหลือสังคม โดยเฉพาะเรื่องการศึกษาของเด็กไทย ประดุจการบ่มเพาะต้นกล้าเล็ก ๆ แต่ละต้น ให้เติบโตเป็นร่มไม้ใหญ่ สร้างความแข็งแกร่งให้กับสังคมไทยต่อไปในอนาคตข้างหน้า