เบนซ์ "New E-Class" "ตา" คู่ใหม่ - เร้าใจกว่าเดิม
คอลัมน์ ทดสอบ สันติ จิรพรพนิต
ห่างหายจากยนตรกรรมสุดหรูค่ายดาวสามแฉก "เมอร์เซเดสเบนซ์" อยู่นานสองนาน จนโน่นเมื่องานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา แวะเข้าไปทักทายที่บูธสุดอลังการของเบนซ์ เจอกับระดับบิ๊กๆ เพียบ หนึ่งในนั้นคือ "พี่ป้อม"เยาวเรศ เลิศลือชาชัย ผจก.อาวุโส ฝ่ายสื่อสารองค์กร ก็มีการทาบทามกันเอาไว้ว่าจะนำรถหลายๆ รุ่นมาให้ทดสอบ เพราะระยะหลังไม่ค่อยได้เจอะเจอกันเลย
จนอีกสักพักให้หลัง พี่ป้อม ก็กริ๊งกร๊างมาหาว่าจัดรถให้ติดๆ กัน 2 รุ่นซ้อน คือ "A-180 CDI" และ "New E-Class" ตัวใหม่ล่าสุด "A-180 CDI" ให้นักข่าว "ยานยนต์ ข่าวสด" นำไปจัดการซะ เพราะผมติดคิวรุ่นอื่นพอดี แต่ตัว "New E-Class" เข้าล็อกจังหวะว่าง จึงไม่พลาดที่จะลองเสียหน่อย
ที่ได้มาเป็นรุ่น "E200 Kompressor Elegance" ท็อปสุดของเครื่อง 1.8 ลิตร
"E-Class" ถือว่าเป็นรถรุ่นดังที่ขายดีที่สุดของค่ายนี้ โฉมที่แล้วฟาดยอดขายไปกว่าล้านคันทั่วโลก หรือหากนับตั้งแต่เจเนอเรชั่นแรกที่ปล่อยออกสู่ตลาดเมื่อ 60 ปีก่อน ปาเข้าไปกว่า 10 ล้านคัน!!!"New E-Class" ลักษณะภายนอกใกล้เคียงกับรุ่นเดิม ที่เปลี่ยนไปเห็นๆ ก็คือ "ดวงตา" คู่ใหม่เป็นแบบ 4 ดวง ใหญ่ 2 เล็ก 2 แยกจากกันไฟใหญ่ใส่ลูกเล่นคล้านบานเกล็ดโปร่งแสงไว้ส่วนบนสุด เพิ่มประสิทธิภาพส่องสว่างมากขึ้นหลอดเป็นแบบไบซีนอน ปรับองศาตามการเลี้ยว ช่วยได้มากเวลาขับขี่ในทางมืดๆ เพราะจะสามารถมองเห็นข้างทางได้ชัดเจนขึ้น พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 ติดในฝากระโปรง
กระจังหน้าออกแบบรูปตัว "วี" รับกันดีกับสัญลักษณ์ดาว 3 แฉกแบบลอยตัว รอบคันติดกันกระแทกพร้อมคิ้วโครเมียม และชุดแต่งรอบคัน กันชนท้ายสไตล์ Avangarde พร้อมไฟท้ายแบบใหม่ใหญ่ขึ้น ภายในสีเทาทูโทนตัดกับลายไม้เงาวับดูหรูหราขึ้นไปอีก พวงมาลัยแบบ 4 ก้านระบบมัลติฟังก์ชัน ที่ออกแบบปุ่มกดรูปวงรี การปรับขึ้นลงเดินหน้าถอยหลังด้วยระบบไฟฟ้าที่ใต้คอพวงมาลัย
เบาะนั่งเป็นหนังแท้ทำให้มีขนาดใหญ่เต็มพื้นที่เพื่อความสบายมากขึ้น เรียกว่าปิดประตูแล้วไม่สามารถสอดมือเข้าไปด้านข้างระหว่างเบาะกับประตูได้ ทำให้ต้องย้ายปุ่มปรับเบาะไฟฟ้ามาวางตรงแผงข้างประตู ซึ่งสามารถบงการตามใจชอบตั้งแต่เบาะนั่ง พนักผิง และหมอนรองศีรษะ พร้อมระบบความจำถึง 3 ชุด เช่นเดียวกับปุ่มปรับ-พับกระจกมองข้างก็ย้ายมาอยู่ที่แผงข้างประตูเช่นกัน
เรือนไมล์ออกแบบใหม่เป็นแบบ 3 วงกลม ตรงกลางเป็นมตรวัดความเร็ว ด้านขวาก็วัดรอบ ส่วนด้านซ้ายเป็นนาฬิกาแบบเข็ม!?? โดยวงกลมด้านในของมาตรวัดความเร็ว แสดงฟังก์ชันต่างๆ เช่นอัตราสิ้นเปลือง อุณหภูมิ ความเร็วเฉลี่ย ฯลฯ
เขยิบมาตรงกลางเป็นช่องแอร์ขนาดใหญ่ สามารถปรับแบบออโต้ หรือแยกซ้าย-ขวาได้ พร้อมวิทยุซีดีเสียงสุดแจ่ม คอนโซลกลางทำไว้สูงพอดีๆ ให้เท้าแขนกันเมื่อยได้สบายอารมณ์ดีเหลือเกิน เพิ่มลูกเล่นให้ช่องเก็บของแบบ 2 ชั้น
ในส่วนของเบาะหลังนั่งสบายดีมากๆ เลครูมออกแบบไว้พอดีๆ ไม่มาก ไม่น้อยเกินไป แต่เหมือนกับจะเน้นให้ผู้ซื้อขับเองมากกว่าจะมีคนขับ
เรื่องความปลอดภัยหายห่วงมีทุกอย่างเท่าที่จะนึกได้ และยิ่งเด็ดมากขึ้นกับระบบ "Pre-Safe" ซึ่งสมองกลอัจฉริยะจะกระชับเข็มขัดนิรภัยให้มั่นคงขึ้น หากรถมีอาการเสียหลัก เสียใจด้วย ผมไม่รู้ว่าเจ้า "Pre-Safe" เป็นอย่างไร เพราะไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับระบบนี้!?? ระบบ "Pre-Safe" เป็นหนึ่งในอุปกรณ์มาตรฐาน ที่ยกมาจาก "S-Class"
นอกจากนี้ ยังมีระบบเบรกแบบแปรผัน และระบบบังคับเลี้ยวพิเศษ ให้ความแม่นยำและปลอดภัยมากขึ้น ที่ขอยืมมาจากรุ่นพี่เช่นกัน เรียกว่าเดมเลอร์ฯ ทุ่มทุนสร้างจริงๆ ที่นำระบบที่เคยวางไว้ใน "S-Class" มาอัดใส่เข้าไปใน "New E-Class"
การทดสอบหนนี้ผมใช้เส้นทางไปเขาใหญ่ ออกจากกรุงเทพฯ ขึ้นทางด่วนไปทะลุบางปะอิน ช่วงอยู่บนทางด่วนจะออกบางปะอินนี่เอง ผมต้องตะลึงตึง...ตึง กับความแรงชนิดเหลือเชื่อของเครื่องยนต์ความจุเพียง 1.8 ลิตร 200 ก.ม./ชั่วโมง คือเข็มที่วาดขึ้นไปช่วงที่ผมกดคันเร่งอยู่เพียงลำพัง โดยแทบจะไม่มีเพื่อนร่วมถนนเลย
เห็นความเร็วขึ้นไปขนาดนี้ไม่ได้มีอาการหวาดเสียวเลย เพราะมันเป็นไปโดยไม่รู้ตัว จนผมตวัดสายตามองไปที่เข็มไมล์นั่นดอก ถึงรู้สึกว่าเร็วเกินไปแล้วไอ้น้อง สมองสั่งการให้ถอนน้ำหนักเท้าแบบอัตโนมัติ ทั้งๆ ที่รู้สึกว่ามันน่าจะไปได้มากกว่านั้น
เห็นจะจริงที่เขาบอกว่าม้าของยุโรปตัวโตกว่าม้าของเอเชีย ยิ่งกับเครื่องของ "New E-Class" จากข้อมูลพบว่าพัฒนาขึ้นไปอีกให้แรงม้าเพิ่มขึ้นถึง 12.5% แต่ความประหยัดของเครื่อง 1.8 ลิตรยังมีเหมือนเดิม ตลอดเส้นทางวิ่งต่างจังหวัดและในเมือง จากตัวเลขที่บอกเอาไว้ของแผงหน้าปัด อัตราสิ้นเปลืองตามสเป๊กอยู่ที่ อยู่ระหว่าง 6.5-12.6 ลิตร/100 ก.ม. แต่ที่ผมทำได้ไม่ถึกขนาดนั้น อยู่ระหว่าง 8-12 ลิตร/100 ก.ม. เพราะขย้ำเอาๆ อย่างเมามันนั่นเอง
ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าช่วงล่างของ "New E-Class" นิ่มนวลกว่ารุ่นเก่า ส่วนการเก็บเสียงและการทรงตัวในความเร็วสูง หรือการเข้าโค้งหนักๆ ทำได้ดีเหมือนเดิม เกียร์ออโต 5 สปีด แม่นยำและนุ่มนวลเวลาปรับเกียร์ขึ้นและลง โดยสามารถเล่นเป็นเกียร์ธรรมดาก็ได้ เพียงโยกคันเกียร์ไปซ้าย-ขวา เบาๆ ด้วยปลายนิ้วเท่านั้น อุปกรณ์ต่างๆ ออกแบบได้หรูหรา และใกล้มือไม้สะดวกต่อการใช้อย่างยิ่ง
จากการทดสอบอยู่หลายวัน ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหลังจาก "New E-Class" เปิดตัว จึงกวาดยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำ "New E-Class" มีให้เลือกตั้งแต่เครื่องยนต์ 1.8-3.0 ลิตร เครื่องยนต์ก็หลากหลายทั้งเบนซิน, เบนซินผสม NGT และเครื่องดีเซล ลองไปดูด้วยตา สัมผัสด้วยความรู้สึกกับรถคันจริง แล้วจะซึ้งว่าทำไมนักธุรกิจทั่วโลกถึงหลงใหล ยนตรกรรมนาม "E-Class"
ข้อมูลทางเทคนิค
(E200 Kompressor Elegance) แบบตัวถัง เก๋ง 4 ประตู เครื่องยนต์ DOHC4สูบ 16 วาล์ว ความจุ 1796 ซีซี กำลังสูงสุด 184 แรงม้า/5,500 รอบฯ แรงบิดสูงสุด 250นิวตันเมตร/3,500-4,000รอบฯ มิติ(กว้างxยาวxสูง) 1,822x4,856x1,483 ม.ม. ราคา 3,950,000 บาท
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
|